วันพฤหัสบดีที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

คนทำงานเงินเดือน 15,000 สามารถผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ได้สูงสุดกี่บาท?? มาดูกันเลย…

เมื่อเข้าสู่ช่วงแรกของวัยทำงาน หลายๆ คนก็มีความฝันที่อยากจะผ่อนบ้านหรือดาวน์รถ โดยเฉพาะผู้ที่จบการศึกษาใหม่เพิ่งเริ่มเข้าทำงานและมีเงินเดือน 15,000 บาท ถึงแม้จะดูเหมือนเป็นไปได้ยากสำหรับการผ่อนซื้อบ้านสักหลังหรือรถสักคัน แต่เป็นไปได้แน่นอนหากมีการวางแผนที่ดีครับ
วันนี้ ในบ้าน ก็จะพาชาวเว็บไปดูกันว่า คนที่ทำงานมีเงินเดือนเพียง 15,000 บาทนั้น จะสามารถผ่อนบ้านผ่อนรถได้สูงสุดกี่บาท เป็นบทความจากทางเว็บไซต์ Moneyhub ครับ เพื่อนๆ ชาวเว็บที่สนใจเรื่องการเงินการลงทุน สามารถติดตามเว็บไซต์นี้กันได้เลย ส่วนตอนนี้เราไปดูหลักการกู้เงินผ่อนกันเลยดีกว่าครับ อย่ารอช้า

คนทำงานเงินเดือน 15,000สามารถผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ได้สูงสุดกี่บาท?? มาดูกันเลย…


ในภาวะปัจจุบันไปทางไหนสมัยนี้คอนโด 1 รถ 1 ตั้งแต่เรียนจบเลยก็ว่าได้ แล้วถ้าจบมาเงินเดือน 15,000 แล้วไม่ถึงละจะกู้ได้หรือไม่ เป็นคำถามค้างคาใจ ของคนเงินเดือนน้อย ก่อนอื่นขอแยกการกู้ 2 อย่างก่อน คือการกู้สินเชื่อเพื่ออยู่อาศัยไม่ว่าจะเป็นบ้านหรือคอนโด อย่างที่ 2 คือรถยนต์ ต้องไม่เกิน 6 แสน เพื่อจะได้มีเงินเหลือไว้ใช้จ่าย

หลักการเบื้องต้นในการกู้

หลักของการกู้ ผู้กู้สามารถแบกรับภาระได้ไม่เกิน 40% ของรายได้เท่านั้น เพราะคุณต้องคำนึงเรื่องรายจ่าย และความเป็นอยู่ต้องไม่กระทบกันมากนักจนไม่ไหว ในปัจจุบันปัญหาการขอสินเชื่อซื้อบ้านไม่ผ่านเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งกำลังกลายเป็นผลกระทบทั้งผู้ปริโภคและผู้ประกอบการ โดยผู้บริโภคจะเกิดปัญหาซื้อบ้านไม่ได้หรืออาจต้องเสียเงินจองและเงินทำสัญญาไปฟรีๆ ในกรณีที่ผู้ซื้อบ้าน ในปัจจุบันดอกเบี้ยได้เริ่มปรับลดลงซึ่งในเดือนเมษายนนี้อาจจะมีข่าวดีปรับลดลงของดอกเบี้ยอีก 0.25% ก็เป็นไปได้ อย่างไรก็ตามผู้ที่กำลังคิดจะซื้อบ้านในเร็ววันนี้ โดยอาจจะต้องเดินบัญชีรายรับรายจ่าย อย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 6 เดือน
ในการกู้ซื้อบ้านของมนุษย์เงินเดือนนั้นค่อนข้างง่ายกว่าบุคคลที่ประกอบอาชีพอื่นๆ ที่ไม่ใช่งานประจำอยู่แล้ว เนื่องจากข้อดีของการเป็นมนุษย์เงินเดือนก็คือการมีรายได้ที่แน่นอนทั้งในเชิงจำนวนและความสม่ำเสมอของรายได้ ถ้าหากผู้กู้ไม่ได้มีประวัติในเครดิตบูโร หรือเอกสารในการยื่นกู้ไม่ถูกต้องครบถ้วนก็มักจะกู้ผ่านได้ไม่ยาก แต่จะได้วงเงินกู้มากน้อยเพียงใดนั้นก็ขึ้นอยู่กับงวดผ่อนชำระสูงสุดที่ผู้กู้จะสามารถผ่อนได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับรายได้และหนี้สินที่อยู่ระหว่างการผ่อนชำระของผู้กู้อีกทีหนึ่ง

ตัวอย่าง ผู้กู้มีเงินเดือน 15,000 บาท จะสามารถผ่อนบ้านสูงสุดได้เท่าไร
15,000 x 40% = 6,000 บาท
หากผู้กู้มีรายได้ 15,000 บาทต่อเดือนจะสามารถผ่อนบ้านสูงสุด 40% ของรายได้คือเป็นจำนวนเงิน 6,000 บาท
ในกรณีที่ผู้กู้บ้านมีภาระหนี้สินที่อยู่ระหว่างการผ่อนชำระอยู่แล้ว เช่น ผ่อนรถอยู่ เดือนละ 5,300 บาท ซึ่งหนี้สินที่อยู่ระหว่างการผ่อนอยู่นี้จะนับรวมในจำนวนเงิน 6,000 บาท ทำให้ผู้กู้เหลือความสามารถในการผ่อนบ้านต่อเดือนลดลง(6,000 – 6,300) เหลือ 300 บาทต่อเดือนเท่านั้น แน่นอนไม่พอชัวร์ที่คุณจะผ่อนบ้าน ถ้าเป็นเช่นนี้ คุณต้องเลือกเองแล้วระหว่างบ้านหรือรถ แต่ถ้าคุณไม่มีหนี้สินเรื่องรถเลย คุณก็มีความสามารถในการผ่อนบ้าน อยู่ที่ 6,000 บาทต่อเดือน

เงินเดือนเท่านี้ จะได้วงเงินกู้สูงสุดได้เท่าไร

“จำนวนเงินผ่อนชำระต่องวด: วงเงินกู้ = 6,000 บาท: 1,000,000 บาท” นั่นหมายความว่าเงินเดือน 15,000 บาทไม่มีภาระหนี้สินกู้ได้สูงสุด 1,000,000 บาท นั่นเอง
แต่ถ้ามีภาระหนี้สิน ให้คิดตามตั่วอย่างเช่น
ความสามารถในการชำระเงินที่คำนวณได้ 14,000 – เป็นหนี้รถ 8,000 บาท เหลือ = 6,000 บาท
วงเงินกู้สูงสุด = (1,000,000 x 14,000) ÷ 6,000 = 2,333,333 บาท
เงินเดือน 15,000 บาท ธนาคารโอเคที่ผ่อนเดือนละ 6,000 บาท
ระยะเวลาผ่อนชำระ 15 ปี กู้ได้ 647,000 บาท
ระยะเวลาผ่อนชำระ 20 ปี กู้ได้ 744,000 บาท
ระยะเวลาผ่อนชำระ 25 ปี กู้ได้ 811,000 บาท
สำหรับการผ่อนรถ ด้วยเงินเดือน 15,000 คุณต้องเลือกว่าคุณจะมีบ้านหรือมีรถก่อนเพราะ ถ้าด้วยเงินเดือนเท่านี้คุณไม่พอจ่ายแน่ๆ หรือคุณเก็บเงินก้อนนึงเพื่อซื้อรถมือสองแต่ค่า Maintenance จ่ายเป็นลมกันเลยทีเดียว
ถ้าเป็นรถใหม่มือหนึ่ง มันก็มีนะแบบผ่อนเริ่มต้นไม่กี่พัน แต่ต้องดูระยะยาว ว่าค่างวดแต่ละงวดมันมีขึ้นรึปล่าว ดอกเท่าไรอะไรยังไง เครื่อง <= 1500cc มีหลายรุ่นเลย รถตามท้องถนนทั่วไป เช่น Mazda2, Honda City/Jazz/Brio, Toyota VIOS, Suzuki Swift ฯลฯ ต้องดูในส่วนของระยะเวลา ตั้งแต่ 4 ปีถึง 7 ปี ยิ่งมากยิ่งดอกแพง
แนะนำ Eco car ถ้าอยากได้ตัวราคาต่ำสุดก็ราคาประมาณ 380,000 บาท แต่เป็นเกียร์ ธรรมดา ถ้าอยากได้ออโต้ ราคารถพวกนี้จะอยู่แถวๆ 420000+-
ดาวน์ที่ต่ำสุด 5% ผ่อน 48เดือนนะ ราคาประมาณ 380000-540000 บาท จะผ่อนอยู่ประมาณ 5000-8000บาท/เดือน ราคาประมาณนี้คิดว่าน่าจะได้นะ (ขึ้นอยู่กับการจัดการเงินของคุณเองด้วย)
1.เห็นมันคันเล็กๆ เป็นรถที่วิ่งโอเคเลยล่ะ วิ่งอยู่ 110-120ได้สบายๆ
2.รถมือ1 ยังไงปัญหาก็น้อยกว่าอยู่ดี
3.ประหยัดน้ำมัน
การจะเป็นเจ้าของรถยนต์สัก 1 คัน มีค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีกหลายรายการ นอกเหนือจาก ค่างวดผ่อนรถ ค่าน้ำมัน และค่าบำรุงรักษา ที่หลายๆที่คุณต้องเตรียมเงินสำรองไว้ด้วยเช่นกัน
ทั้งหมดนี้คือเรื่องราวของการเตรียมความพร้อมของคนที่มีรายได้ 15,000 บาทแล้วสนใจอยากมีบ้าน หรือรถเป็นของตัวเองก็ลองพิจารณาตัดสินใจตามกำลังของตัวเอง ที่สำคัญถ้าไม่เดือดร้อนกระทบอะไรแล้วไหวก็เลือกที่จะตัดสินใจก่อนที่อายุจะมากขึ้นระยะเวลาการผ่อนก็สั้นลงตามไปด้วยเช่นกัน
ที่มา : Moneyhub

วันอาทิตย์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

7 ไอเดียจัดสวนเล็ก ๆ บนโต๊ะทำงาน ไว้สร้างความสดชื่น

7 ไอเดียจัดสวนเล็ก ๆ บนโต๊ะทำงาน ไว้สร้างความสดชื่น


ไอเดียจัดสวนเล็ก ๆ บนโต๊ะทำงาน

         ไอเดียจัดสวนเล็ก ๆ บนโต๊ะทำงาน สร้างพื้นที่สีเขียวไว้พักสายตาระหว่างวัน ไปดูกันว่าเราสามารถจัดสวนเล็ก ๆ บนโต๊ะทำงานได้อย่างไรให้ดูไม่น่าเบื่อได้บ้าง 

         หันไปทางไหนก็เจอแต่แสงจากจอคอมพิวเตอร์ใช่ไหมค่ะ กระปุกดอทคอมเลยขอนำเสนอไอเดียจัดสวนเล็ก ๆ บนโต๊ะทำงาน ช่วยปรับเปลี่ยนบรรยากาศที่ดูเคร่งเครียดให้สดชื่น มีความตื่นตัว พร้อมผลิตไอเดียและผลงานใหม่ ๆ อยู่เสมอ เพื่อเอาใจคนขยันทำงานที่อยากเติมเต็มความสดชื่นด้วยพื้นที่เขียว

จัดสวนบนโต๊ะทำงาน
ภาพจาก SarasGardenAu 

1. สวนไม้อวบน้ำในถังไซส์มินิ

         ต้นไม้อวบน้ำเป็นต้นไม้ที่กักเก็บน้ำเอาไว้ได้มาก จึงทำให้ทนร้อนและแล้งได้เป็นอย่างดี การดูแลก็แค่นำมาตั้งให้โดนแดดและไม่ต้องรดน้ำมาก สามารถปลูกได้ในถังสเตนเลสเล็ก ๆ สวย ๆ สำหรับจัดสวนไซส์มินิบนโต๊ะทำงาน 

จัดสวนบนโต๊ะทำงาน
ภาพจาก dailytwocents 

2. ลิ้นมังกรในตระกร้าใบเก่า 

         ส่วนจะข้อดีของการนำลิ้นมังกรมาประดับโต๊ะทำงานนั้นมีมากมามาย เพราะช่วยดูดซับสารพิษโดยรอบ ปรับเปลี่ยนบรรยากาศให้สดชื่น แถะยังเป็นไม้มงคลที่ช่วยป้องกันสิ่งไม่ดีที่จะเข้ามาอีกด้วย วิธีการดูแลนั้นไม่ยากแค่วางในที่ที่มีแดดและไม่ต้องรดน้ำมาก การปลูกก็เหมือนพืชทั่วไป แต่อาจจะเปลี่ยนจากปลูกในกระถางเป็นการปลูกในแก้วกาแฟหรือตะกร้าสานเหลือใช้เจาะรูระบายน้ำที่ก้นตะกร้า แล้วหาถาดมารองป้องกันน้ำหยดลงบนโต๊ะทำงาน 

จัดสวนบนโต๊ะทำงาน
ภาพจาก notonthehighstreet 

3. สาหร่ายมาริโมะในขวดแก้วเหลือใช้ 
         สาหร่ายมาริโมะเป็นสาหร่ายญี่ปุ่นที่มีลักษณะทรงกลม มีสีเขียว เพียงแค่หาขวดแก้ว เหยือกน้ำ หรือขวดโหลที่ไม่ใช้แล้วมาใส่หินสีสวย ๆ แล้วหย่อนเจ้าสาหร่ายมาริโมะลงไป โต๊ะทำงานก็น่ามองมากขึ้นแล้ว ส่วนการดูแลก็แค่หมั่นเปลี่ยนน้ำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งเท่านั้นเอง 

จัดสวนบนโต๊ะทำงาน
ภาพจาก เฟซบุ๊ก crown flora studio 

4. ปลูกไม้อวบน้ำบนหินภูเขาไฟ

         อย่างที่บอกไปว่าไม้อวบน้ำสามารถทนแล้งได้ ดังนั้นเราก็สามารถนำมันมาปลูกบนก้อนหินภูเขาไฟได้เลยค่ะ ใส่จานรองไว้อีกชั้นป้องกันโต๊ะเลอะเทอะ นอกจากจะช่วยปรับบรรยากาศบนโต๊ะทำงานให้มีชีวิตชีวา ยังเป็นสวนเล็ก ๆ ที่ทั้งเก๋ เท่ และไม่เหมือนใครด้วย 

จัดสวนบนโต๊ะทำงาน
ภาพจาก  worldmarket

5. สวนขวดแก้ว อาณาเล็ก ๆ ของคนรักสีเขียว

         หากอยากได้บรรยากาศเสมือนทำงานอยู่กลางสวนสีเขียว สวนขวดแก้วเป็นททางเลือกที่น่าสนใจทีเดียว เพราะภายในขวดมีทั้งต้นไม้ กรวด หิน และตุ๊กตาน่ารัก ๆ ตัวเล็ก ๆ ที่ดูเหมือนสวนจริงมากทีเดียว อีกทั้งยังดูแลง่ายเพราะไม่ต้องรดน้ำบ่อย แค่นำไปรับแสงแดดบ้างก็พอ

จัดสวนบนโต๊ะทำงาน
ภาพจาก treehugger

6. สวนเล็ก ๆ เปลือกหอยทาก

         สำหรับเปลือกหอยทากที่เก็บได้ในสวน ก็สามารถนำมาจัดสวนบนโต๊ะได้เหมือนกัน โดยการเจาะรูเล็ก ๆ ไว้ระบายน้ำ ใส่ปุ๋ย ดิน และปลูกต้นไม้ลงไป ก็ได้สวนเล็ก ๆ สวย ๆ มาชมแล้ว 

จัดสวนบนโต๊ะทำงาน
ภาพจาก learningcreatingliving 

7. ปลูกแคคตัสในกระถางคอนกรีต

         หล่อกระถางคอนกรีตเองได้ง่าย ๆ เริ่มจากเทคอนกรีตใส่ลงในถ้วยพลาสติกประมาณครึ่งหนึ่งของถ้วย แล้ววางกระป๋องน้ำลมไว้ตรงกลาง เทคอนกรีตไปรอบ ๆ  กระป๋องซ้ำอีกครั้ง วางทิ้งไว้จนกระถางแข็งตัวแล้วค่อยแกะเบ้าออก 

         เป็นอย่างไรกันบ้างคะสำหรับไอเดียจัดสวนบนโต๊ะทำงานที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ หวังว่าจะช่วยเปลี่ยนวันทำงานที่แสนน่าเบื่อของใครหลาย ๆ คน ให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า สดชื่น และพร้อมลุยงานกันทุกคนนะคะ 
ขอขอบคุณข้อมูลจาก popsugar, smallbiztrends, RabeangmaiBlogging และ  Panmai

โครงการอนานคร ติด TOP บ้านประเภททาวน์เฮาส์ที่ขายดี

โครงการอนานคร ติด TOP บ้านประเภททาวน์เฮาส์ที่ขายดี


ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการ
ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส

โครงการขายดีที่พึงเป็นแบบอย่างที่ควรศึกษาโดยเฉพาะในภาวะที่เศรษฐกิจตกต่ำ การแข่งขันสูงยังมีอยู่หลายโคร.การ จากการสำรวจของศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส ซึ่งเป็นศูนย์ข้อมูลฯ ที่มีข้อมูลการสำรวจภาคสนามที่มากที่สุดในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2537 พบข้อมูลโครงการขายดี ซึ่งแสดงว่า ‘มีดี’ ซึ่งผู้ซื้อสมควรพิจารณา ดังนี้: 

ประเภทบ้านเดี่ยว
ส่วนมากเป็นโครงการของบริษัทมหาชนหรือบริษัทขนาดใหญ่ เช่น ชัยพฤกษ์ วัชรพล ของบริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ภัสสร 19 (วัชรพล-วงแหวน) ของบริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด มหาชน คาซ่าวิลล์ พระราม 2-2 ของบริษัท คาซ่า วิลล์ จำกัด พฤกษ์ลดา (ปิ่นเกล้า-พุทธมณฑลสาย 5) ของบริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) แลนซีโอ วงแหวน-ปิ่นเกล้า (พระราม 5) ของบริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) 

ส่วนที่เป็นบริษัทขนาดกลางที่น่าสนใจก็คือโครงการเนอวานา พระราม 9 ของบริษัท เนอวานา พระราม 9 จำกัด โครงการนี้ขายบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาดที่ดิน 50 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 158 ตารางเมตร ขนาด 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำที่จอดรถ 2 คัน ราคาเริ่มต้น 5.675 ล้านบาท ยอดขายเฉลี่ยต่อเดือน 10 หน่วยต่อเดือน ทำการตลาดโดยแถมเครื่องปรับอากาศ 4 เครื่อง, ติดวอลเปเปอร์, จัดสวน, เครื่องปั๊มน้ำ และเป็นโครงการที่มีทำเลดี

ประเภทบ้านแฝด
มีโครงการเด่นแห่งเดียว คือ โครงการ เอกวินทาวน์โฮม-เลียบคลองสอง ของบริษัท ดีดีพัฒนาบ้านและที่ดิน จำกัด เป็นบ้านแฝดสองชั้น จำนวน 118 หน่วย (49%) ขนาดที่ดิน 35 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 154 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 2.090 ล้านบาท ยอดขายเฉลี่ยต่อเดือน 7.5 หน่วยต่อเดือน มีการตลาดคือแถมครัวไทยสำเร็จ, พัดลมดูดอากาศแบบติดผนังหนึ่งเครื่อง, ระบบเดินท่อกำจัดปลวก และ ฉนวนกันความร้อนใต้หลังคา เหตุผลที่ขายดีอีกอย่างคือตั้งอยู่ในทำเลดี คืออยู่ติดถนนเลียบคลองสอง มีการคมนาคมที่สะดวก ซึ่งมีหลายเส้นทางที่สามารถใช้เดินทางไปยังโครงการได้ 

ประเภททาวน์เฮาส์
ส่วนมากเป็นโครงการของบริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) ได้แก่ โครงการพฤกษาวิลล์ 16/1 และ 16/2 รังสิตคลอง 3 โครงการพฤกษา 17 พุทธบูชา 36 พฤกษาวิลล์ 19 (ซอยวัดส้มเกลี้ยง) โครงการเดอะ แพลนท์ ซิตี้ ลาดพร้าว 71 และโครงการบ้านใหม่ พระราม 2-พุทธบูชา ของบริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) รวมทั้งโครงการเดอะ เมทโทร สาทร บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) 

ส่วนโครงการของรายเล็กที่น่าสนใจก็มีเช่นกัน ได้แก่ โครงการเดอะลิฟวิ่ง รังสิต-ติวานนท์ ของบริษัท บางกอก พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เป็นทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น หน้ากว้าง 6 เมตร ขนาดที่ดิน 22.5 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 148 ตารางเมตร ขนาด 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 1 คัน ราคาเริ่มต้น 1.850 ล้านบาท ยอดขายเฉลี่ยต่อเดือน 18 หน่วยต่อเดือน มีกลยุทธ์คือ แถมเครื่องปรับอากาศห้องนอนใหญ่ 12,000 บีทียู ปั๊มน้ำ และถังสำรองน้ำ โครงการนี้อยู่ในทำเลที่ดีมาก

โครงการบ้านอนานคร 2 ติดถนนโรจนะ-วังน้อย บางปะอิน ของบริษัท อนานคร จำกัด เป็นทาวน์เฮ้าส์ 1 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร ขนาดที่ดิน 20 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 94 ตารางเมตร ขนาด 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน ราคาเริ่มต้น 1.3 ล้านบาท มียอดขายเฉลี่ยต่อเดือน 15 หน่วยต่อเดือน ไม่มีรายการส่งเสริมการขาย แต่ทำเลดีและราคาถูก จึงขายดีเพราะอยู่ในบริเวณที่มีกลุ่มเป้าหมายมาก

โครงการณัฎยา ถนนเศรษฐกิจ 1 กระทุ่มแบน ของบริษัท ณัฐสิทธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เป็นทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น หน้ากว้าง 6 เมตร ขนาดที่ดิน 19.5 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 105 ตารางเมตร ขนาด 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 1 คัน ราคาเริ่มต้น 1.040 ล้านบาท มียอดขายเฉลี่ยต่อเดือน 17 หน่วยต่อเดือน ไม่มีรายการส่งเสริมการขาย แต่ที่ขายดีเพราะอยู่ในบริเวณที่มีกลุ่มเป้าหมายมาก

นนทรี แกลลอรี่ พระราม 5 ของบริษัท สุนทรีมั่นคง (2000) จำกัด ขายทาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้น จำนวน 97 หน่วย (78%) หน้ากว้าง 5-7.5 เมตร ขนาดที่ดิน 20 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 142-232 ตารางเมตร ขนาด 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน ราคาเริ่มต้น 2.690 ล้านบาท ยอดขายเฉลี่ยต่อเดือน 18 หน่วยต่อเดือน ทั้งนี้เพราะมีชื่อเสียงดีในบริเวณดังกล่าวและราคาถูก

ดรีม วิลเลจ (บางกรวย-จงถนอม) ของบริษัท ดรีมแลนด์ พร๊อพเพอร์ตี้ จำกัด ยอดขายเฉลี่ยต่อเดือน 15 หน่วยต่อเดือน มีการรณรงค์การขายคือในช่วงเปิดโครงการ ลูกค้าที่จองบ้าน 20 หลังแรก จะได้รับปั๊มน้ำ ถังสำรองน้ำ ปูพื้นกระเบื้องโรงจอดรถ และมุ้งลวด รูปแบบบ้านมีความสวยงาม ประกอบกับหน้ากว้าง 6 เมตร และพื้นที่ใช้สอยใกล้เคียงบ้านเดี่ยวขนาดเล็ก นอกจากนี้ทางโครงการยังก่อสร้างก่อนขาย 

ประเภทอาคารชุด
ส่วนมากก็เป็นโครงการของบริษัทมหาชนเช่นกัน ได้แก่ ลุมพินี คอนโดทาวน์ (รามอินทรา-นวมินทร์) ของบริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) บลอคส์ 77 ที่ถนนสุขุมวิท 77 ของบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) โครงการโนเบิล รีฟอร์ม ซอยพหลโยธิน 7 ของบริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) และโครงการคิวเฮ้าส์ คอนโด ถนนกรุงธนบุรี ของบริษัท ควอลิตี้ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) 

แต่ที่เป็นบริษัทขนาดเล็กกว่าที่น่าสนใจและขายดี ได้แก่ โครงการไอดีโอ มอร์ฟ 38 ถนนสุขุมวิท 38 ของบริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ ทู จำกัด จำนวนรวมทั้งโครงการ 162 หน่วย ขายได้แล้ว 97 หน่วย (60%) ราคาเริ่มต้น 4.300 ล้านบาท ส่งเสริมการขายโดยให้ผู้ซื้อรับเฟอร์นิเจอร์ครบชุด นอกจากนี้ที่ตั้งยังถือว่าโดดเด่นมาก

นอกจากนี้ยังมีโครงการควอด สีลม (Quad Silom) มี 74 หน่วย ขายได้แล้ว 42 หน่วย (57%) ราคาเริ่มต้น 5.448 ล้านบาท ยอดขายเฉลี่ยต่อเดือน 42 หน่วย ไม่มีการส่งเสริมการขาย แต่มีกลุ่มเป้าหมายคือ พนักงานที่มีฐานเงินเดือนระดับสูงขึ้นไปที่ทำงานอยู่บริเวณใกล้เคียงและผู้ปกครองของเด็กนักเรียนกวดวิชา

นักพัฒนาที่ดินก็ควรไปศึกษาโครงการเหล่านี้เพื่อการพัฒนาโครงการให้ต้องใจผู้ซื้อ ส่วนผู้ซื้อก็อาจพิจารณาโครงการเหล่านี้เพราะน่าจะมีความน่าเชื่อถือสูง โดยพิสูจน์จากการขายของโครงการเหล่านี้นี่เอง แต่หลายโครงการก็ขายหมดแล้ว เช่นกัน

แบบบ้านฟรี 14 แบบบ้าน จากกรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย

แบบบ้านฟรี 14 แบบบ้าน จากกรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย


แบบบ้านฟรี

           แบบบ้านฟรี แบบบ้านจากโครงการ "แบบบ้านสานฝัน ของขวัญปีใหม่ คนไทยมีความสุข" ให้ประชาชนขอได้ฟรี โดยกรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย 

           สำหรับผู้ที่กำลังมองแบบบ้านฟรีสำหรับสร้างบ้าน กรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย ก็ได้จัดทำ 14 แบบบ้าน ทั้งแบบบ้านชั้นเดียวและแบบบ้านสองชั้น ให้ประชาชนไปขอได้ฟรีโดยไม่เสียใช้จ่ายที่ กองคลัง กรมโยธาธิการและผังเมือง ถนนพระรามที่ 6 สำนักงานเขตกรุงเทพมหานครทั้ง 50 เขต และภูมิภาคขอรับได้ที่สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัด องค์การบริหารส่วนจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (เทศบาล) ทุกแห่ง ตามโครงการ "แบบบ้านสานฝัน ของขวัญปีใหม่ คนไทยมีความสุข"

        "แบบบ้านสานฝัน ของขวัญปีใหม่ คนไทยมีความสุข" เป็น 1 ใน 16 กิจกรรม ภายใต้โครงการเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชนในปี 2559 ภายใต้แนวคิดเสริมสร้างชีวิตใหม่ ให้คนไทยมีความสุข ที่จัดทำโดยกรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย ซึ่งมุ่งหวังที่จะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างบ้าน ให้แก่ประชาชนที่ประสงค์จะปลูกสร้างที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ดังนี้ 

1. บ้านครอบครัวไทยร่วมสมัย : ประกอบด้วย 10 แบบบ้าน ขนาดพื้นที่ตั้งแต่ 70-224 ตารางเมตร ราคาก่อสร้างเริ่มต้นที่ 972,000-2.1 ล้านบาท 

แบบบ้านฟรี

แบบบ้านฟรี

แบบบ้านฟรี

แบบบ้านฟรี

แบบบ้านฟรี

แบบบ้านฟรี

แบบบ้านฟรี

แบบบ้านฟรี

แบบบ้านฟรี

แบบบ้านฟรี

2. บ้านต้านภัยพิบัติแผ่นดินไหว : ประกอบด้วย 2 แบบบ้าน เพื่อรองรับกับภัยธรรมชาติในพื้นที่ที่เสี่ยงภัยหรือพื้นที่เฝ้าระวัง ราคาการก่อสร้างเริ่มตั้งที่ 1.7-2 ล้านบาท 

แบบบ้านฟรี

แบบบ้านฟรี

3. บ้านห่วงใยไทยประชาสุขใจ : ประกอบด้วย 2 แบบบ้าน แบบบ้านสำหรับผู้สูงอายุหรือผู้พืการ ราคาการก่อสร้างเริ่มต้นที่ 1.2-1.3 ล้านบาท 


แบบบ้านฟรี

แบบบ้านฟรี

        นอกจากนี้ กรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย ยังเปิด คลินิกบ้าน ที่สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัด ทุกจังหวัด เพื่อให้คำปรึกษาและรับฟังปัญหาเกี่ยวกับการก่อสร้างบ้านให้บริการประชาชนเพิ่มเติมอีกด้วย

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก กรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย 

ผ่อนบ้านให้หมดเร็ว ทำอย่างไรมาดูเทคนิคกัน

ผ่อนบ้านให้หมดเร็ว ทำอย่างไรมาดูเทคนิคกัน



          ผ่อนบ้านให้หมดเร็ว ทำอย่างไร คำถามสำคัญที่คนซื้อบ้านอยากรู้ การผ่อนบ้านให้หมดเร็ว ๆ คงเป็นเป้าหมายหลักของคนที่จรดปากกาเซ็นสัญญาซื้อบ้านเป็นของตัวเอง เพราะนั่นหมายความว่าคุณกำลังเป็นหนี้ก้อนโต ที่มีระยะเวลาในการผ่อนนับสิบปี

          ซึ่งถ้าคุณมีความพร้อมและตั้งใจที่จะผ่อนบ้านให้หนี้หมดลงอย่างรวดเร็ว ไม่ต้องรอนาน 20-30 ปีตามสัญญากู้ซื้อบ้าน ก็สามารถ ผ่อนบ้านให้หมดเร็ว ได้เหมือนกัน และในวันนี้กระปุกดอทคอมก็ขอนำเอาบทความดี ๆ จาก เฟซบุ๊ก Money Coach มาฝากให้ได้ทำความเข้าใจ แล้วคุณจะรู้ว่าการผ่อนบ้านให้หมดเร็วก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมเหมือนกันจ้า

 ผ่อนบ้านยังไง … ให้หมดเร็ว ๆ โดย คุณจักรพงษ์ เมษพันธุ์ 

          ดิฉันซื้อบ้านราคา 3 ล้านบาท เมื่อสองปีที่แล้ว ปัจจุบันส่งบ้านเดือนละ 18,000 บาท อยากจะส่งให้หมดเร็ว ๆ จะได้เสียดอกเบี้ยน้อย ๆ ต้องทำยังไง

          แหม…ถามกันแบบนี้ ถ้าทะลึ่งตอบตรง ๆ ว่า "ก็รีบปิดรีบโปะ จะได้หมดเร็วหมดไว" คงจะโกรธกันน่าดู

          แต่จะว่าไปนั่นก็เป็นวิธีการเดียวครับที่จะทำให้หนี้บ้านหมดได้เร็วได้ไวสมดังใจ ก็คิดเอาง่าย ๆ คุณยืมเงินเพื่อนสักคนมา 3 ล้าน ถามว่าวิธีการทำให้หนี้ที่ค้างเพื่อนไว้หมดไวที่สุดต้องทำยังไง

          ไม่มีคำตอบอื่นครับ นอกจากรีบเอาเงินไปคืนเขาให้หมดโดยเร็วที่สุด

          แต่ก็ใช่ว่าจะรีบโปะรีบเทโดยไม่มีแผนเลย เพราะการเร่งเอาเงินก้อนไปชำระหนี้บ้าน อาจส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องทางการเงิน (ไม่พอใช้) รวมถึงแผนการเงินอื่น ๆ ในชีวิตคุณได้ ดังนั้นจะโปะ จะปิด มันก็ต้องมีหลักการกันสักนิดนึง

          จากโจทย์ที่ให้มา บ้านราคา 3,000,000 บาท ส่งเดือนละ 18,000 บาท ผมคาดว่าคุณคงทำสัญญากู้ยืมยาว 30 ปี ที่อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยราว 6 เปอร์เซ็นต์

          สำหรับแนวทางผ่อนชำระเพิ่มเพื่อให้หนี้หมดเร็วนั้น สามารถทำได้ 2 ทางด้วยกัน คือ ชำระเพิ่มเป็นจำนวนเท่า ๆ กันทุกเดือน หรือชำระเป็นเงินก้อนใหญ่คราวละมาก ๆ



เรามาดูที่แนวทางแรกกันก่อน

          1. ผ่อนชำระเพิ่ม เป็นจำนวนเท่า ๆ กันในแต่ละเดือน

          จากข้อมูลที่ส่งมา ปัจจุบันคุณส่งบ้านเดือนละ 18,000 บาท สมมติคุณวางแผนที่จะส่งเพิ่มอีกเดือน ละ 10% หรือ 1,800 บาท (ถ้ากลัวจำลำบากเพิ่มเป็น 2,000 บาท ก็ได้ครับไม่ผิดกติกา) รวมแล้วเดือน ๆ หนึ่งคุณส่งบ้านเดือนละ 19,800 บาท

          ในกรณีนี้บ้านของคุณจะผ่อนชำระหมดภายในระยะเวลา 22 ปี กับอีก 10 เดือน โดยประมาณ ซึ่งหมดเร็วขึ้น 7 ปีเศษแหนะ แถมยังลดดอกเบี้ยลงได้ร่วม ๆ 1 ล้านบาทครับ

          ทั้งนี้ถ้าอยากเร็วขึ้น ก็อาจปรับส่วนเพิ่มให้มากขึ้นอีกก็ได้ครับ ถ้าไหว

          2. ผ่อนชำระเพิ่มอีก 1 เดือน

          วิธีคิดในแนวทางที่สองก็คือ 1 ปี เราส่งบ้าน 13 เดือน แทนที่จะเป็น 12 เดือนครับ ซึ่งอาจจะใช้ช่วงโบนัสออก หรือเมื่อไหร่ก็ตามที่ได้เงินก้อน จะโปะเวลาไหน ช่วงใดของปีก็ได้ ได้ผลไม่ต่างกันครับ

          สมมติคุณส่งค่าบ้านเพิ่มเป็น 2 เดือน ในเดือนธันวาคมของทุกปี (เดือนอื่นส่งปกติ) พูดง่าย ๆ เดือนอื่นส่งเดือนละ 18,000 บาท แต่เดือนธันวาคมส่ง 36,000 บาท ซะเลย

          ในกรณีบ้านของคุณจะผ่อนชำระหมดภายในระยะเวลา 23 ปี กับอีก 10 เดือน เร็วขึ้นร่วม 7 ปี เหมือนกัน และลดดอกเบี้ยลงได้ร่วม ๆ 8 แสนกว่าบาท


ทำไม ? วิธีแรก ถึงหมดเร็วกว่า และลดดอกเบี้ยได้มากกว่า

          ไม่มีอะไรมากครับ เพราะวิธีแรกนั้น เราตัดต้นไปทุกเดือน แม้จะนิดหน่อยแค่ 1,800 บาทก็ตาม เมื่อต้นลดลงทุกเดือน เวลาก็สั้นลง ดอกเบี้ยก็ลดลงตามไปด้วยเท่านั้นเอง

          ทีนี้หากใครอยากผ่อนบ้านหมดเร็วกว่าในตัวอย่างที่ผมนำเสนอ ก็สามารถปรับแผนการผ่อนชำระของคุณได้ครับ ก็อย่างที่บอก ยิ่งโปะเยอะก็ยิ่งหมดเร็ว

          หัวใจสำคัญของวิธีการข้างต้นก็คือ กรุณาบอกธนาคารด้วยว่า เงินที่คุณนำฝากเข้าไปเพิ่มนั้น เพื่อต้องการตัดเงินต้นที่เป็นหนี้บ้านอยู่ อย่าไปนำฝากเข้าไปในบัญชีออมทรัพย์ เฉย ๆ เพราะถ้าไม่บอกธนาคาร เขาก็จะตัดยอด 18,000 บาทเหมือนเดิมนะครับ ต้องบอกด้วยว่าจะตัดหนี้ด้วยยอด 19,800 บาท (กรณีรายเดือน) และ 36,000 บาท (กรณีรายปี) มิฉะนั้น จะไม่เกิดผลลัพธ์ในแบบที่ต้องการนะครับ

          อย่างไรก็ดี อย่าเร่งการผ่อนชำระมากเสียจนแผนการเงินในชีวิตประจำวันเสียหายนะครับ


สำหรับท่านที่ห่วงเรื่องดอกเบี้ย ไม่อยากเสียดอกเบี้ยเยอะ          อีกแนวทางหนึ่งที่พอจะทำได้เหมือนกัน ก็คือ การรีไฟแนนซ์บ้าน ก็เหมือนการทำสัญญากู้ยืมเงินกันใหม่ โดยเราสามารถทำสัญญาใหม่ได้ หลังจากผ่อนชำระเกิน 3 ปีไปแล้ว (อันนี้ต้องดูเงื่อนไขจดจำนองของแต่ละธนาคารอีกที)

          ถ้าปัจจุบันบ้านที่เราผ่อนอยู่นั้นมีอัตราดอกเบี้ยที่สูง ท่านก็อาจพิจารณาขอรีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคารเดิม หรือธนาคารใหม่ (กดดันธนาคารเดิมที่ใช้อยู่ 555) เพื่ออัตราดอกเบี้ยใหม่ที่ต่ำกว่า

          บางท่านอาจบอกว่า วิธีการนี้จะทำให้ระยะเวลาผ่อนชำระยาวออกไปอีก อันนี้ต้องบอกว่าไม่จริงนะครับ ทั้งหมดขึ้นอยู่กับเราจะตกลงกับธนาคาร สัญญาบนโลกนี้เขียนอย่างไรก็ได้ครับ ตราบใดที่สองฝั่งคู่สัญญายอมรับและไม่ผิดกฎหมาย

          สำคัญ คือ การร่นเวลาผ่อนชำระในสัญญาใหม่จะต้องไม่ส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องทางการเงินของเรานะครับ ถ้าไม่ติดปัญหาตรงนี้ ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

          ในมุมมองของผม บ้านนั้นถ้าผ่อนหมดเป็นของเราเร็ว ๆ ได้ก็ดีครับ แต่ถ้าการเพิ่มยอดส่ง ทำให้เป็นภาระเพิ่ม การรักษากติกาผ่อนชำระตามเงื่อนไขไปก่อน ก็เป็นเรื่องที่ไม่เสียหายจนเกินไปนัก

          สิ่งสำคัญ คือ คุณทำบ้านของคุณ ให้เป็น "บ้าน" จริง ๆ หรือเปล่า หรือเป็นแค่ที่พักเอาแรง เพื่อพรุ่งนี้จะได้ตื่นไปวิ่งไล่ตามหาเงินอีกครั้ง

          "HOME กับ HOUSE มันต่างกันมากนะครับ"